วันจันทร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2555

Seasonal Marketing: รวบรวมการตลาดเทศกาลไทย

สวัสดีปีใหม่ทุกท่านครับ ขอให้มีความสุข ร่ำรวยเงินทอง สุขภาพแข็งแรง กันทุกคนนะครับ

สำหรับในช่วงสงกรานต์นี้ มาดูกันเรื่อง Seasonal Marketing หรือการตลาดตามฤดูกาลกันครับ

Seasonal Marketing สามารถแปลความได้ 2 ความหมายคือ การตลาดตามฤดูกาลจริงๆ (ฤดูร้อน-Summer ฤดูหนาว-Winter ฤดูใบไม้ร่วง-Fall ฤดูใบไม้ผลิ-Autumn) และการตลาดตามเทศกาลต่างๆ

สำหรับบ้านเราจะหนักไปทางการตลาดตามเทศกาลมากกว่า ... เพราะถ้าเป็นฤดูกาลเมืองไทยมีแค่ 2 ฤดู คือ ร้อน-Hot และร้อนกว่า-Hotter ^^

ซึ่งถ้ามาเปิดปฏิทินกางดูกันเลยตั้งแต่ เดือนมกราคม ถึงธันวาคม ก็จะมีงานเทศกาลระดับชาติ (ไม่ขอรวมวันที่เกี่ยวกับศาสนาพุทธ และวันสำคัญที่ไม่ค่อยทำการตลาดกันนะครับ) ดังนี้

ม.ค. = (1.) วันเด็ก (เสาร์ที่สองของเดือนมกราคม)
(2.) วันตรุษจีน (23 ม.ค.) - ตรุษจีนแต่ละปี วันไม่ตรงกัน ต้องตรวจสอบดีๆ ครับ

ฉลองตรุษจีน ต้องสีแดงเท่านั้น

ก.พ. = (1.) วันวาเลนไทน์ (14 ก.พ.)

มี.ค. = ไม่มี

เม.ย. = (1.) วันสงกรานต์ (13 -15 เม.ย.)


สงกรานต์ที่สีลม จัดเต็มทุกปี แต่ปีที่แล้วจัดเต็ม (ตา) กว่าปีนี้ อิอิ

พ.ค. = ไม่มี

มิ.ย. = ไม่มี

ก.ค. = ไม่มี

ส.ค. = วันแม่ (12 ส.ค.)

ก.ย. = ไม่มี

ต.ค. = (1.) วันฮาโลวีน (31 ต.ค.)

พ.ย. = (1.) วันลอยกระทง (10 พ.ย.)

ลอยกระทงไทย เด๋วนี้ต้อง Green Marketing น้า อย่าใช้โฟม ไม่เท่ อิอิ

ธ.ค. = (1.) วันพ่อ (5 ธ.ค.)
(2.) วันคริสต์มาส (25 ธ.ค.)
(3.) วันปีใหม่ (31 ธ.ค.)


สวยสุดของปีใหม่ ต้องที่นี้ Sydney

นับรวมๆ ก็จะมี 10 วันสำคัญ ที่นิยมทำ Seasonal Marketing ในบ้านเราเป็นประจำทุกปี ซึ่งถ้าวางแผนกันดีๆ จะมีส่วนช่วยให้ยอดขายเพิ่มขึ้น เช่น การจัด Promotion พิเศษ หรือออก Product เฉพาะช่วงเทศกาล และภาพลักษณ์ของแบรนด์ดีขึ้นมากทีเดียว เช่น การเป็นผู้สนับสนุน-Sponsorship เป็นต้น

นอกจากวันสำคัญประจำปีของบ้านเราแล้ว มาดู Big Event ระดับโลก ที่ถือว่าเป็นเทศกาลยักษ์ใหญ่ ที่ทุกประเทศต้องโหนกระแสการตลาดไปด้วย ได้แก่

(1.) ฟุตบอลโลก (World Cup) จัดทุกๆ 4 ปี ครั้งต่อไป จัดที่บราซิล ปี 2014 ครับ
(2.) ฟุตบอลยุโรป (European Football Championship) จัดทุกๆ 4 ปี ครั้งนี้ จัดเดือนมิถุนายน 2012 ที่โปแลนด์และยูเครนครับ - เด๋วหลังสงกรานต์ก็จะได้เห็นกระแสการตลาดฟุตบอล Euro กันแล้ว
(3.) โอลิมปิก (Olympic) จัดทุกๆ 4 ปี ครั้งนี้ จัดเดือนกรกฎาคม 2012 ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษครับ
(4.) ออสการ์ (Oscar) จัดทุกปี เป็นงานประกาศผลรางวัลในด้านการแสดงต่างๆ ระดับโลก ปีนี้ จัดไปแล้วเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา - หลายๆ คน ฝันอยากที่จะไปงานนี้ เพราะมีเงินอย่างเดียว ไม่พอเข้าร่วมงานครับ


แฟนบอลจัดเต็มกันอยู่แล้ว

เช่นกัน ถ้าวางแผนกันล่วงหน้า ก็จะเกาะกระแสไปกับ Big Event ระดับโลก ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก เช่น จับฉลากชิงตั๋วไปงาน (Lucky Draw) หรือทำการแข่งขันเพื่อให้ได้ตั๋วเข้าร่วมงาน (Competition) งานพวกนี้ได้ทั้งเงิน (ยอดขาย) และกล่อง (ภาพลักษณ์) ครับ

ส่วน Event อื่นๆ ที่เป็นเฉพาะกลุ่มไปเลยก็มี เช่น งานคอนเสิร์ตใหญ่ยุโรป เกาหลี การแข่งขัน F1 ชิงแชมป์มวยโลก และอื่นๆ อีกมากมาย ที่มีแฟนๆ ติดตาม ก็สามารถนำมาเล่น Seasonal Marketing ตามความเหมาะสมได้เช่นกัน

จะเห็นได้ว่า ถ้าเราวางแผนล้วงหน้ากางปฏิทินมาดู การจัดทำแผนกิจกรรมการตลาดตลอดทั้งปี ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย สามารถใช้ Seasonal Marketing ช่วยได้ และทำให้มีกิจกรรมดีๆ เกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปี

นอกเหนือจากงานเทศกาลใหญ่ๆ แล้ว ในบ้านเรามีงานเทศกาลหรืองานประเพณีท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง ที่จัดเป็นประจำทุกปี


งานประเพณี ถือศีล กินผัก จังหวัดภูเก็ต

ประเพณีวิ่งควาย จังหวัดชลบุรี

และงานใหญ่ของเมืองไทย แบบจัดเอง ที่คาดว่าน่าจะมีต่อเนื่องไป ทุกๆ ปี

ขาดไม่ได้จริงๆ กับงาน Pretty Show เอ้ย Motor Show แห่งชาติ :)


อันนี้ด้วยความชอบส่วนตัว "มัน ใหญ่ มาก" สุดยอดงานคอนเสิร์ต ขอให้มีตลอดไป
(ส่วนรูปสุดท้ายคนละงาน แต่ Concept เดียวกัน ^^)

ซึ่งถ้าเพื่อนๆ อยากดูตารางงานต่างๆ ทั่วประเทศไทย แนะนำเว็บไซด์นี้ครับ http://www.thailandexhibition.com รวบรวมทุกงานไว้จริงๆ เผื่อใช้ไปเที่ยวเองได้ด้วยครับ ^^

Wikran M.

ติดตามบทความของผมต่อได้ทุกวันที่... 



วันศุกร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2555

Digital Media: เค้าว่ากำลังจะมาจริงหรือ??? (Tipp-Ex, Magnum and Axe)

Digital Media จะมาจริงไหม ในบ้านเรา ???

ก่อนจะตอบมาดูของนอก ตัวอย่างดีๆ กันก่อนครับ ...

อันนี้ชอบมาก ลองเล่นกันดูครับ เป็น Version ภาคแรก ของ The Hunter Vs Bear


ลองกดตามเข้าไปดู แล้วตอนที่ให้พิมพ์ข้อความลองใส่ไปหลายๆ คำ เช่น Love, Fight, Cool, Poke, ... แล้วมันจะมีรูปนักล่ากับหมี ทำกิจกรรมร่วมกันตามคำที่ใส่นั้นๆ

ซึ่งโฆษณาดิจิตอล ตัวนี้ เป็นของ Tipp-Ex เป็นแบรนด์ดังแถบยุโรป โดยผลิตภัณฑ์คือ "น้ำยาลบคำผิด" หรือบ้านเราก็จะใช้ทับศัพท์ไปเลย ก็คือ ลิควิด เปเปอร์
ซึ่งจริงๆ แล้ว ลิควิด เปเปอร์ เป็นชื่อแบรนด์ เหมือนอย่างที่เราเรียก"บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป" ว่า "มาม่า" กัน

Tipp-Ex ทำดิจิตอลแคมเปญจนดังไปทั่ว และตอนนี้ก็มีภาค 2 ของ The Hunter Vs Bear ให้มาสนุกกันต่อแล้ว


เล่นเหมือนเดิมครับ แต่ใส่เป็นปี คศ. แทน

และอีกตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ Advergame หรือการโฆษณาโดยใช้เกม ของ ไอติมสุดอร่อย Magnum นั้นเอง (ตอนนี้ มี 2 ภาค แล้วมาดูตัวอย่างกันครับ)


เล่นภาคแรก >> http://pleasurehunt.mymagnum.com/
เล่นภาคสอง >> http://pleasurehunt2.mymagnum.com/


ก็ประสบความสำเร็จกันไป ... ถ้าไม่สำเร็จจะมีภาคต่อได้ยังไง ใช่ไหมครับ

ย้อนกลับมามองของบ้านเรากันบ้าง ที่เตะตาก็มี
.
.
.
Axe Get the Angel ซึ่งทำเป็น App ของ Iphone

สรรพคุณโดยย่อคือ มีการเขย่ามือถือในแต่ละสถานที่แล้วจะมีนางฟ้าสุดเซ็กซี่ลงมาให้เรายลโฉม ... ยิ่งไปกว่านั้น มี Function การตั้งนาฬิกาปลุก ซึ่งจะปลุกเราโดยเหล่านางฟ้า สุดยอด Customer Insight ครับ อิอิ




ขอแถม ของน้องสต็อป อีกอัน Axe สุด Cooool เหมือนเดิมครับ


.
.
.
สุดท้าย มาถึงคำตอบของคำถามที่ว่า ... Digital Media ในบ้านเรา เค้าว่ามันกำลังจะมา จริงหรือ???

The Answer is "มาแน่ครับ"

ตอนนี้ Facebook Marketing มาแล้ว 100%

เพียงแต่ตัวอื่นๆ อย่าง Advergame, Youtube Marketing, App Marketing จะมาสุดๆ เมื่อไหร่ ก็ต้องติดตามกันต่อไป...

Wikran M.

ติดตามบทความของผมต่อได้ทุกวันที่... 



วันจันทร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2555

Retro TVC: ถึงเก่า แต่ก็ยังเก๋าอยู่

วันนี้เรามาดูกัน กับโฆษณาในบ้านเรา ยุคเก่า ว่าเก๋าขนาดไหน

มาเริ่มกันที่ โฆษณายาสีฟันดาร์กี้ เลยครับ


ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น ยาสีฟันดาร์ลี่ Re-Branding ใหม่ หล่อและขาวขึ้นกว่าเดิมเยอะ ^^

ตัวที่สอง ขอนำเสนอถ่านไฟฉายตรากบ ครับ


เพลงประกอบร้องว่า

ต้นตระกูลผมแต่ปางบรรพ์ หลังย่ำสายัณห์ดวงตะวันเลี่ยงหลบ
จะเดินทางเยื้องย่างไปไหน จำเป็นต้องใช้จุดไต้จุดคบ

ปัจจุบันเห็นจะไม่ดี ขืนจุดไต้ซีถ้ามีใครพบ
อาจจะอายขายหน้าอักโข เขาต้องฮาต้องโห่ ว่าผมโง่บัดซบ

ยุคนี้มันต้องทันสมัย เพื่อนผมทั่วไปใช้ถ่านไฟตรากบ
ทั้งวิทยุและกระบอกไฟฉาย คุณภาพมากมายสะดวกสบายแทนคบ

ถ่านก็มีหลายอย่างวางกอง เขากลับรับรองว่าต้องแพ้ตรากบ
เหตุและผลเขาน่าฟังครับ ขอให้ลองสดับ นะท่านที่เคารพ

มี Sub ตอนจบให้ เค้าพูดว่า

"คือเขาบอกว่า ถ่านไฟฉายตรากบ ไม่ใช่ของนอกที่ส่งมาขยอกเงินไท­ย และก็ไม่ใช่ของทำภายในที่โกยกำไ­รส่งออกนอกแต่ถ่านไฟฉายตรากบ ทำในเมืองไทย เพื่อให้เงินหมุนเวียนอยู่ในเมื­องไทย ทำให้ดุลการค้าของไทยดีขึ้น… .ดังนั้น นอกจากผมจะชอบกินกบ ชอบเพลงพม่าแทงกบ และชอบเล่นไพ่กบแล้ว ผมยังชอบถ่านไฟฉายตรากบอีกด้วย โอ๊บๆ ...)"

ปัจจุบัน คิดว่ายังมีขายกันอยู่ไหมครับ ???

ยังมีขายอยู่ครับ แต่ต้องไปหาตามร้านขายของโบราณนะ ... เพลินวานจะมีไหมเนี้ย

อันนี้ ก็ประทับใจ ไม่เคยลืมเป็น Tagline ขั้นเทพ "ก็ลมมัน ... เย็น" ของยาบรรเทาริดสีดวงทวารหนัก ตราปลามังกรนั้นเอง


ปัจจุบันถ้ายทอดสู่รุ่นหลานหรือรุ่นที่ 3 ซึ่งก็ดูดี มีอนาคตครับ

และอันนี้ก็เป็นสุดยอด TVC อีกตัว ที่ผมมองว่า มันดิบ ซะจนดัง ...

น้ำมันเครื่องไดเกียว 2T นั้นเอง


"เครื่องฟิต สตาร์ทติดง่าย" Slogan สุด Classic ของโฆษณาชิ้นนี้

ดังซะจน มีหลายๆ รายการนำมาล้อเลียน ... ฮาจะเกร็ง และเนื้อคู่ฯ



สำหรับไดเกียว อย่าลืมไปเก็บค่า Tie-In กับ ELLE ด้วยนะครับ เพราะตัวล้อเลียนเค้าจะไม่มีเลย ^^

สุดท้าย ขอรวมโฆษณาสุดฮา แบบมีกึ๋น ให้รับชมกันครับ


แน่นอน หลายๆ คน คงพอจะจำกันได้ สุดยอดโฆษณาไทย ที่เป็นตำนานครับ

Wikran M.

ติดตามบทความของผมต่อได้ทุกวันที่... 



วันเสาร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2555

เถ้าแก่น้อย: Big Jump to Build Brand

เมื่อวานก่อน ได้มีโอกาสไปร่วมงาน Korean Wave 2012 ที่สนามกีฬาราชมังคลา ไปดูตลาดคนรุ่นใหม่หน่อย ว่าเป็นอย่างไร ...

บอกได้คำเดียวว่า ที่น่าสนใจมีอยู่ 2 จุด จุดแรกคือ วัยรุ่นเยอะมาก แต่เป็นเฉพาะกลุ่มเด็กผู้หญิงและกลุ่มตุ๊ดเด็กซะ 90% และจุดที่สองคือ Sponsor ในงานที่เตะตา ก็คือเถ้าแก่น้อย ซึ่งทำได้ดี

เถ้าแก่น้อยและ Fanta เป็น Sponsor ร่วมกัน สำหรับงานนี้ ซึ่ง Booth บริเวณงานเถ้าแก่น้อยจัดได้โดดเด่นกว่าพอสมควร มีตุ๊กตาลมยักษ์ มีการประกวด Street Dance มีกิจกรรมตลอดทั้งวัน ก่อนคอนเสิร์ตจะเริ่ม

บอกได้เลยว่า ถึงวันนี้ เถ้าแก่น้อยไม่ใช่แบรนด์ที่ไม่มีภาพลักษณ์อีกต่อไป...

ภาพลักษณ์ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยภาพที่ออกไปคือเป็นแบรนด์วัยรุ่น ที่เข้าใจวัยรุ่นยุคนี้ !!!

โดยปฎิบัติการแรกที่ทำคือ นำวงบีส Boyband จากเกาหลี มาเป็น Presenter


รู้สึกว่าจะมีจัด Meet & Greet กันไป เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

และก็ต่อเนื่องมาถึงการเป็น Sponsor ของ Korean Wave 2012 ซึ่งมีกลุ่มวัยรุ่นมาร่วมเป็นหมื่นๆ คน


กระแส K-POP คงจะแรงไม่หยุด อย่างน้อยก็ภายใน 2-3 ปีนี้ ถ้าไม่มีกระแสอย่างอื่น มาทดแทน

เพราะฉะนั้นการเป็น Sponsor ให้กับบรรดาศิลปิน ดารา คอนเสิร์ต การแสดง Meet & Greet ต่างๆ คงจะคุ้มค่าถ้าแบรนด์นั้น มีเป้าหมายไปยังกลุ่มเด็กวัยรุ่น ที่ประมาณกันว่า มีสาวก K-POP กว่า 500,000 คนในบ้านเรา ณ ตอนนี้

ก็เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนอีกครั้งสำหรับเครื่องมือ Sponsorship ที่ส่งประสิทธิภาพ ต่อการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ โดยเฉพาะกับแบรนด์ที่ยังมีภาพลักษณ์ไม่ชัดเจน หรือมีภาพลักษณ์เก่าแก่ แล้วอยากจะเป็นคนหนุ่มมากขึ้น

และอีกแบรนด์ที่น่าสนใจ ที่เกาะกระแส K-POP ก็คือ Yamaha

Ads ตัวใหม่ กับ Presenter วง Big Bang


และก็มีจัดงานใหญ่ ที่เพิ่งผ่านไปอีกเช่นกัน


Yamaha คงตัดสินใจไม่ผิดในครั้งนี้ เพราะได้ใจวัยรุ่นไทยไปเต็มๆ
.
.
.
จะเห็นได้ว่า ไม่มีเหล้า เบียร์ มาพ่วงหรือ Featuring กับ K-POP ทั้งๆ ที่มีงบการตลาดมากมายมหาศาล เหตุผลคงมีอย่างเดียวคือ กลุ่มมันเด็กเกินจะดื่ม และภาพลักษณ์ก็ดูใสเหลือเกิน ไม่เหมาะๆ

ถ้าจะ Sponsor ก็ขอไป Concert Hardcore แบบ Lady GAGA ดีกว่า ตรงกลุ่มกว่า Drink Drank Drunk มากกว่า

ซึ่งงานนี้ พี่สิงห์ก็เป็น Sponsor ให้น้อง GAGA คงจะได้ใจกลุ่มคนเริ่มต้นทำงาน (First Jobber) และกลุ่มคนทำงาน (White Collar) ไปเต็มๆ !!! สุดยอดเบียร์ไทย เท่มาก ...

Wikran M.

ติดตามบทความของผมต่อได้ทุกวันที่... 



น้ำทิพย์: Green Marketing "เลือก ดื่ม บิด" ใครได้ ใครเสีย

ผมเชื่อเหลือเกินว่า เพื่อนๆ หลายคน ต้องได้เห็นหรือเคยสัมผัสกับเครื่องดื่มน้ำทิพย์ตามร้านอาหารต่างๆ โดยขวดจะเป็นลักษณะใหม่ ที่บางกว่าเดิม และฝาสั้นกว่าเดิม
ซึ่งการทำตลาดจะนำเสนอเป็นแนว Green Marketing โดยใช้คอนเซ็ป "เลือก ดื่ม บิด" ใช้เทคโนโลยี Eco-Crush ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นมิตรยังไงมาดูกัน

1.) ลดปริมาณการใช้พลาสติกลง 35% ซึ่งทำให้ขวดบางลงและฝาสั้นกว่าเดิม โดยเค้าอ้างว่า การลดการใช้พลาสติก จะช่วยลดโลกร้อน จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ???

2.) การบิดขวด จะช่วยทำให้ลดพื้นที่การเก็บขยะได้ อันนี้ก็อ้างเหมือนกันว่า เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ???

โดยรวมแล้ว มันเหมือนการลดต้นทุนมากกว่า แล้วนำเอาเรื่อง Green Marketing มายำรวม

แน่นอนว่า ผู้บริโภคที่ไม่คิดมาก ก็ไม่เป็นไร ...

แต่เผอิญผมคิดมาก เนื่องจากผมโดยยัดเหยียดให้ดื่มน้ำในขวดนี้ จากร้านอาหารร้านนึง ซึ่งมีแต่น้ำดื่มน้ำทิพย์ขวดใหม่ ผมจับขวดขึ้นมา เปิดฝา น้ำก็กระฉอกออกมา เนื่องจากขวดมันบางมาก หรือถ้าดื่มไม่หมด แล้วจะนำออกไปข้างนอก ก็ไม่สะดวก เพราะมันบอบบางเหลือเกิน

หรือถ้าคิดเผื่อคนอื่นๆ ที่อยากจะเก็บขวดไปใช้ต่อ หมดสิทธิ์ครับ ใช้ยากมาก

ก็คงต้องดูกันยาวๆ กับเกม Green Marketing ว่าจะเป็นของจริงรึปล่าว หรือแค่เจอเทคโนโลยีที่ลดต้นทุนได้ แล้วหาจุดเชื่อมมาเข้ากับ Green Marketing เพื่อจะได้ขายราคาเท่าเดิมแบบเนียนๆ

ถ้าจะ Green Marketing ผมว่า พวกลดกระดาษ แบบตู้ ATM ดีครับ ให้ผู้บริโภคมีทางเลือกว่า คุณจะไม่รับกระดาษจากตู้ ATM ช่วยลดโลกร้อนไหม ถ้าสมัครใจก็ไม่รับกระดาษ ถ้าไม่สมัครใจก็รับกระดาษ

อย่า ... บีบให้่ไม่มีทางเลือกครับ ... ส่วนเรื่องลดโลกร้อนหรือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผมว่าทางบริษัทที่อ้างเรื่องนี้ คงต้องชี้แจงมากกว่านี้ว่า มันช่วยยังไง ช่วยแค่ไหน และมีทางช่วยทางอื่นด้วยไหม นอกจากจะผลักภาระให้ผู้บริโภคช่วยอย่างเดียว ตัวบริษัทได้ช่วยอะไรโลกบ้าง เช่น โครงการ CSR ที่เกี่ยวข้องต่างๆ มีไหม

ซึ่งขอแบบจริงจัง ไม่ใช่อ้างกันไปเรื่อย หรือเคลมกันมั่วๆ สมัยนี้ ผู้บริโภคเค้าฉลาดขึ้นเยอะแล้วนะครับ

Wikran M.

ติดตามบทความของผมต่อได้ทุกวันที่... 



วันอังคารที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2555

Viral Marketing: จาก Angry Teacher ถึง จ๊ะ คันหู

เคยได้ยินหรือเคยเห็นภาพ Video ผ่านทาง Youtube ของอาจารย์คนหนึ่งที่โมโหเด็กนักเรียนที่คุยมือถือในห้องเรียน แล้วแย่งมือถือจากเด็กมาขว้างทิ้งไหมครับ มาชมกัน


ตอนนั้นเป็นที่กล่าวถึงกันมาก และสุดท้ายก็มาเฉลยว่ามันคือ โฆษณาของ Burger King กับผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ The Angry Whopper ประมาณแฮมเบอร์เกอร์เผ็ดร้อนแรง ...


ซึ่งแคมเปญนี้ ก็เรียกความสนใจจากกระแสสังคมได้มากมาย จะออกไปทางด่าซะเยอะ แต่ก็ถือว่าสร้าง Awareness ได้เยอะ แต่หลังๆ ไม่เห็นทำอีก สงสัยจะกลัวกระแสสังคมมั้ง ???
.
.
.
การทำโฆษณาแบบนี้ เรียกว่า Viral Marketing หรือการตลาดแบบไวรัส คือแพร่กระจายถึงกลุ่มคนอย่างรวดเร็วและเป็นวงกว้าง โดยอาศัย Social Media ต่างๆ ในการเข้าถึงกลุ่มคน

และสำหรับ Viral Marketing ที่เป็นการโฆษณาผลิตภัณฑ์ ในบ้านเราจะนิยมใช้ Concept เป็นคลิปหลุด คลิปแอบถ่าย แล้วมาเฉลยทีหลัง
.
.
.

ในอดีต เราก็มี Viral Marketing ในตำนาน โดยทำเป็นคลิปหลุดในของ น้องพริก จ.เจี๊ยว จ๊าว (เด๋วนี้ หายไปเลยอ่ะ คิดถึง)


สุดท้ายก็มาเฉลยว่าเป็นการถ่ายทำของ Digital Magazine นามว่า Memo


แล้วปัจจุบันมากๆ ก็มีอันหนึ่ง ที่เรียกกระแสได้ดีคือ แท็กซี่ ปอร์เช่


และก็มาเฉลยว่ามันคือ Viral Marketing ของ Samsung Galaxy SII
.
.
.
ซึ่งผมคิดว่าการทำ Viral Marketing ลักษณะนี้ ในบ้านเรา คงไปไม่ได้ไกล ... เพราะว่า คนจะเริ่มชินและคิดว่าโดนหลอกอีกแล้ว ... ดังนั้นผมว่าจะทำ Viral Marketing ก็ต้องคิดกันดีๆ ไม่งั้นจะได้ไม่คุ้มเสียครับ
.
.
.
แต่ก็มี Viral Marketing อีกรูปแบบหนึ่งที่แรงดี ไม่มีตก ซึ่งก็คือ Viral Marketing แบบบุคคล

ที่โด่งดังในบ้านเราก็เห็นจะเป็น คลิป "น้องจ๊ะ คันหู" คนเข้าไปดูกันซะ 17 ล้าน !!!


ด้วยลีลา ความแปลก + สยิว จึงโด่งดัง เป็นที่รู้จักกันไปทั่ว

นอกจากนั้นก็มี วงที่ผมชื่นชอบ คือ Room39

วงนี้เป็นของจริง โด่งดังจากการ Cover เพลง ใน Youtube จนเข้าตาพี่บอย และชักชวนกลับมาทำอัลบั้ม ประสบความสำเร็จ โด่งดังอีกเช่นกัน


เหตุผลว่าทำไม Viral Marketing สำหรับบุคคล ทำได้ขึ้น ทำได้ดีกว่า Viral Marketing แบบโฆษณาผลิตภัณฑ์

ส่วนหนึ่งคงมาจากความจริงใจในการทำ คือ ไม่หลอกลวง ไม่เสแสร้ง ทำให้คนดูเต็มใจจะบอกต่อสู่เพื่อนๆ ของพวกเค้า มากกว่าที่จะโดนหลอก แล้วมาเสียหน้ากับเพื่อนๆ ทีหลัง

สุดท้าย ผมฝาก Viral Marketing ไว้อีกตัวหนึ่ง ของกสิกร ... ผมว่ามันกำลังดี เป็นการโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่ว่ากันตรงๆ ดูจริงใจ ดูสนุก ตลก แบบนี้ คนไทยชอบ


ซึ่งน้องคนนี้ เค้าดังมาจากการ Cover น้องหวาย ครับ ฮาอีกเช่นกัน


หันมาทำ Viral Marketing แนวสร้างสรรค์แบบนี้ จะเป็นคลิปฮาแบบตีหัวเข้าบ้าน หรือคลิปผีสุดสยองแบบที่คนไทยชอบ ... ก็ทำไปเถอะครับ น่าจะ work กว่า แบบเก่าๆ ที่เป็นแบบ ... มวยล้ม ต้มคนดู

Wikran M.

ติดตามบทความของผมต่อได้ทุกวันที่... 



วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2555

Coke (โค้ก): New Campaign >> Reasons to Believe

หลังจากที่ได้ดูโฆษณาทีวี (TVC) ของโค้กตัวใหม่ พูดได้คำเดียวครับว่า "รู้สึกดีและประทับใจ"


ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมเลยรู้ว่า เป็น Global Campaign ที่มีมาตั้งแต่ปีที่แล้ว


และได้ทำออกมาหลากหลายภาษาทั่วโลก

แต่ของบ้านเราเพิ่งจะมาออกตอนช่วงนี้ อาจเป็นเพราะว่า ช่วงปลายปีที่แล้ว (2011) ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงน้ำท่วมในบ้านเรา จึงยังไม่เหมาะที่จะปล่อยออกไป

พอมาช่วงนี้ หลายๆ อย่าง กำลังไปได้ดี จึงปล่อย Campaign นี้ออกมา ซึ่งถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ถูกต้อง เหมาะสม โดนใจคนไทยทั่วประเทศ

ลองมองเข้าไปที่ Concept ของแคมเปญนี้ Reasons to Believe ชัดเจนครับ คือ ... การมองโลก ในมุมมองที่แตกต่าง มีทั้งวันที่ไม่ดี และมีทั้งวันที่ดี วันนี้ให้เราเชื่อว่ามันมีเหตุผล ที่ทุกอย่างมันจะดีขึ้น ขอให้เราเชื่อก็พอ ... ประมาณนี้ สุดยอดครับ เป็น Big Idea เหมาะกับสถานการณ์โลกตอนนี้จริงๆ

และสำหรับหลักการตลาด ในหัวข้อการโฆษณา (Advertising) กับพฤติกรรมผู้บริโภค สรุปเป็นขั้นตอนได้ดังนี้ ...

Advertising >> Attitude >> Interest >> Desire >> Action หรือ

โฆษณา -ส่งผลต่อ- ทัศนคติ -ส่งผลต่อ- ความสนใจ -ส่งผลต่อ- ความปารถนา -ส่งผลต่อ- การตัดสินใจซื้อ

โฆษณาทีวี (TVC) ชุดนี้ ส่งผลโดยตรงต่อ ทัศนคติ (Attitude) ของผู้ชม ให้รู้สึกดีขึ้นกับสถานการณ์บ้านเรา (ผมลองดูแล้ว ของบ้านเราทำเป็น Version พิเศษ เฉพาะขึ้นมา)

ทัศนคติที่ดี จะนำไปสู่ความสนใจของเรา ถ้าเกิดมีทางเลือกระหว่างโค้กและเป็ปซี่ จังหวะนี้อาจจะขอเป็นโค้ก ปารถนาที่จะดื่ม จนนำไปสู่การซื้อกินในที่สุด

แต่ตอนนี้ ทาง Coke ในต่างประเทศ ออกมาเป็นตัวใหม่แล้วครับ เกาะกระแส Euro 2012 เต็มที่


เพราะ Coke เป็น Sponsor อย่างเป็นทางการของ Euro 2012 ครับ เลยต้องโหมโรงกันแรงหน่อย

ซึ่งในจังหวะนี้ เราก็จะได้เห็น Pepsi นำนักบอลชื่อดังต่างๆ มาโฆษณา เปรียบประดุจดังเป็น Official Sponsorship ของ Euro 2012 ด้วย ซึ่งเราเรียกการตลาดแบบนี้ว่า Free Rider หรือพวกแจมมั่ว ไม่เสียตังค์ค่า Sponsor แต่ทำให้คนเข้าใจว่าเป็น Sponsor ไปด้วย !!!

ซึ่งหลังสงกรานต์ ผมว่าจะมีอีกหลายแบรนด์ในบ้านเรา ที่จะโหมโรงเกาะกระแส จัดแคมเปญชิงโชคไป Euro 2012 รอลุ้นกันได้เลยครับ ^^

Wikran M.

ติดตามบทความของผมต่อได้ทุกวันที่...