และหนึ่งในรูปแบบหรือแพลตฟอร์มการทำตลาดที่ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน... ก็ยังใช้ได้ผลดีอยู่เสมอ
นั่นก็คือ... การใช้ตัวการ์ตูนดังต่างๆ มาประกอบการทำตลาดครับ
Cartoon Marketing มีตัวอย่างให้เห็นมากมายในบ้านเรา... ที่ว่า เมื่อนำมาใช้ปุ๊ป ก็สามารถเรียกลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายมาได้ทันที ลองมาดูตัวอย่างกันครับ...
Family Mart... ร้านค้าสะดวกซื้อแบรนด์ดังจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมาทำธุรกิจแบบเงียบๆ อยู่นาน... จนสุดท้ายถูกเปลี่ยนมือมาบริหารโดยกลุ่มเซ็นทรัล กรุ๊ป... ก็เริ่มทำการตลาดอย่างจริงจัง... และเมื่อวิเคราะห์ถึงปัญหาของ Family Mart ก็เจอประเด็น หรือโจทย์สำคัญทันที ซึ่งก็คือ...
"จะทำอย่างไร ให้ลูกค้าอยากเดินเข้ามาซื้อของใน Family Mart พร้อมกับจะทำอย่างไรให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูดีขึ้นในสายตาของผู้คน"
และแล้วคำตอบก็ไปตกกับเจ้าตัวการ์ตูนคิตตี้... ซึ่งมาช่วยตอบโจทย์ได้หลายประการ
กล่าวคือ...
คิตตี้มีกลุ่มผู้หญิงที่เป็นแฟนคลับ และมีช่วงอายุที่กว้างมาก กล่าวง่ายๆ คือ... ตั้งแต่เด็กเล็ก เด็กโต ยันคนทำงานไล่ตั้งแต่รุ่นเล็กไปถึงรุ่นใหญ่เลยทีเดียว... และแน่นอนว่า กลุ่มผู้หญิงคือ ลูกค้าเป้าหมายกลุ่มใหญ่ของร้านสะดวกซื้อ ดังนั้นหากทำแคมเปญแลกซื้อเจ้าคิตตี้ย่อมส่งผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ทางด้านธุรกิจและการตลาดได้แน่นอนครับ โดยแบ่งออกได้ ดังนี้...
1.) ทำให้คนกลุ่มนี้อยากมาซื้อของใน Family Mart
2.) เกิดยอดการซื้อเพิ่มมากขึ้น
3.) เกิดการซื้ออย่างต่อเนื่อง เพราะต้องสะสมสติ๊กเกอร์ และส่งผลไปต่อถึงความคุ้นชินกับซื้อของในร้านค้าทันที
4.) ส่งผลทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ Family Mart ดูดีขึ้นมาทันทีในสายตาของคนกลุ่มนี้
5.) รวมถึงตัวการ์ตูนคิตตี้ก็มาจากประเทศญี่ปุ่นด้วย เหมือนกับตัวแบรนด์ Family Mart เองที่มาจากญี่ปุ่นเหมือนกัน เป็นการย้ำภาพ Japan Brand ซึ่งเป็นที่ยอมรับในหมู่คนไทยเป็นอย่างมากครับ
แคมเปญการตลาดตัวการ์ตูน ด้วยคิตตี้ของ Family Mart นั้น... ส่งผลลัพธ์ที่ดีมากๆ ออกมา ทั้งยอดคนเข้าร้านค้า ยอดซื้อของ และภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ดีขึ้นเป็นกอง... ขอปรบมือดังๆ ให้กับคนที่คิดแคมเปญการตลาดนี้ขึ้นมา เพื่อแก้สถานการณ์ที่เป็นรอง 7-11 มากๆ ให้กลับมาดูสมเป็นคู่แข่งกันได้... เยี่ยมจริงๆ ครับ
และอีกแคมเปญหนึ่งที่นำ Cartoon Marketing มาใช้ และประสบความสำเร็จอย่างงดงามเช่นกัน... ก็คือ แคมเปญ Universe of Happiness ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล ที่นำตัวการ์ตูนสนูปปี้มาใช้เป็น Magnet สำคัญ และทำให้เกิดกระแส Talk of The Town ได้ในหมู่สาวๆ ทั่วประเทศไทยเลยทีเดียวครับ
งานนี้เซ็นทรัลจัดแคมเปญใหญ่ส่งท้ายปี 2014... ด้วยการนำสนูปปี้มาทำแคมเปญการตลาด โดยซื้อของครบ 5,000 บาท ได้รับตุ๊กตาสนูปปี้ฟรีทันที... แต่จุดสำคัญที่เป็นจุดเด่นจริงๆ ของแคมเปญนี้คือ... การเล่นกับโลกสังคมออนไลน์ หรือ Social Network ครับ
โดยมีการเตรียมการสร้างเจ้าสนูปปี้ทั้งตัวเล็กตัวใหญ่... และนำไปใช้กับศูนย์การค้าเซ็นทรัล 25 แห่งทั่วประเทศ (Nationwide Campaign)... ผลที่ออกมาก็คือ เกิด Earned Media หรือสื่อที่มีผู้คนช่วยกระจายกันให้เองเกิดขึ้นมากมาย (โดยไม่เสียเงิน) เช่น การถ่ายรูปแล้วโพส การแชร์ การไลค์ การพูดถึง กลายเป็นกระแสในโลก Social Network ที่ใครไม่มา Engage กับเจ้าสนูปปี้นี้ละก็ ถือว่า Out หรือเชยทันทีครับ
โดยสรุป... แคมเปญสนูปปี้นี้ ถือว่า ประสบความสำเร็จมากๆ ครับ... ทั้งในแง่ของกระแสการพูดถึง การส่งผลให้คนมาเดินที่ศูนย์การค้า และมาแล้วก็เกิดการช้อปเพื่อให้ได้เจ้าสนูปปี้ด้วย... ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งกล่อง สุดยอดจริงๆ ครับ !!!
ซึ่งก็คือ... เจ้าปิกาจู ที่ทางสยาม พารากอน นำมาใช้ในช่วงวันเด็กปี 2015 นี้ที่ผ่านมา... กระแสก็แรงดีทีเดียวครับ... แต่น่าเสียดาย ทำสั้นไปหน่อย ถ้าคิดวางเป็นแคมเปญยาวแบบสนูปปี้แล้วละก็ ผลที่ได้น่าจะคุ้มค่าและดีกว่านี้มากทีเดียวครับ
โดยสรุป... การตลาดตัวการ์ตูนเป็นรูปแบบการทำตลาดที่น่าสนใจเสมอ แต่สิ่งที่นักการตลาดต้องพึงคิดให้ดีก่อนนำมาใช้ มีดังนี้ครับ
1.) ตัวการ์ตูนนั้น ต้องเป็นที่รู้จักและดังจริงในวงกว้าง
2.) กลุ่มแฟนคลับของตัวการ์ตูนนั้น ควรต้องตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการ
3.) ตัวการ์ตูนนั้น ต้องสามารถตอบโจทย์ทางธุรกิจและการตลาดที่ต้องการได้ (ต้องระวังเรื่องลิขสิทธิ์หรือสัญญาการนำมาใช้ไห้ดีมากๆ ครับ ไม่งั้นจะกลายเป็นเสียของทันที) เช่น นำมาทำเป็นของแถมพรีเมี่ยม เพื่อกระตุ้นให้คนซื้อได้ นำมาทำเป็นสินค้า Limited Edition พิเศษ ดึงดูดให้คนรีบมาและสร้างกระแสได้ หรือนำมาทำ Collaboration ระหว่างตัวการ์ตูนนั้นและแบรนด์ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ และขายของนั้น สร้างเงินได้ เป็นต้น
4.) ณ ปัจจุบัน ต้องพึงระลึกไว้เลยว่า ถ้าจะทำ Cartoon Marketing หรือการตลาดตัวการ์ตูนนั้น ตัวการ์ตูนที่เลือกมา ต้องถูกนำมาใช้ในการสร้างกระแส โดยต้องทำให้เกิดทั้งในโลกออนไลน์ (Website และ Social Network ต่างๆ) และโลกออฟไลน์ (Word of Mouth และ Traditional Media เช่น ทีวี หนังสือพิมพ์ นิตยสาร เป็นต้น) ครับ
########
ผมก็ขอฝากแนวคิดการตลาดตัวการ์ตูนไว้ประมาณนี้นะครับ... หวังว่า จะมีประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ไว้ครั้งหน้ามาพบกันใหม่กับเรื่องราวการตลาดที่น่าสนใจ... โปรดติดตามตอนต่อไปครับ ^^
Wikran M.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น