ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรก หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปี คศ. 1945
เป็นยุคที่ ใครมีโรงงาน ผลิตได้เยอะ และทำได้ถูกกว่า ผลิตอะไรก็ขายได้หมด กลายเป็นคนร่ำรวยมหาศาล
ต่อมา ผู้คนต่างแข่งกันผลิต จนเริ่มผลิตสินค้าเยอะมาก จนเกิดทางเลือกขึ้นกับผู้บริโภค
ทำให้เข้าสู่ยุคแข่งกันขาย ... โดยใครขายเก่งกว่ากัน คนนั้นเป็นผู้ชนะ
จึงเกิดหลักการหนึ่งขึ้นมาคือ Unique Selling Point หรือ USP
USP คือการหาจุดขายเฉพาะที่ดีกว่า โดดเด่นกว่า คู่แข่งในตลาด มานำเสนอต่อผู้บริโภค รวมถึงโจมตีคู่แข่งที่ด้อยกว่าไปในคราวเดียวกัน
พอมาสมัยปัจจุบัน รูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป จากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 2 ซึ่งมาจากการเกิดขึ้นของโลกอินเทอร์เน็ต การแข่งขันที่เปลี่ยนรูปแบบไป ทำให้บริษัทเรียนรู้ที่จะใช้ เรื่องของจุดยืน (Positioning) และการสร้างแบรนด์ (Branding) ในการสู้รบระยะยาว เพราะได้ผลมากกว่า และยั่งยืนกว่า
.
.
.
แล้วถ้าวันหนึ่ง เราจะมีร้านค้าเป็นของตัวเองล่ะ หลักการตลาดอะไร ที่เราจะใช้ได้บ้าง ???
คงไม่ต้องใช้ STP, Branding, Marketing Mix, IMC นะ พร้อมมันซับซ้อนเกินไป กับการเปิดร้าน แล้วขายของ !!!
.
.
.
.
.
สิ่งที่ทำให้ผมฉุกคิดขึ้นมาได้ก็คือ ... ตอนที่ผมเห็นร้านไอติมร้านหนึ่ง ที่ผมเดาว่า เจ้าของคงไม่ได้จบการตลาด ... แต่เค้ามีหัวคิดแบบการตลาดมากทีเดียว
นั้นก็คือ ร้านกินติม ดูควาย
จากร้านไอติมทั่วไป พอใส่เรื่องการตลาด โดยมีจุดขายเฉพาะ (USP) ที่ยังไม่มีใครเคยทำ และช่างสร้างสรรค์มากๆ เข้ามา ... ซึ่งก็คือ การกินไป ดูควายไป ... ก็ทำให้ดังจากกระแสปากต่อปาก จนถึงการออกรายการของช่อง Free TV ไม่ว่าจะเป็นช่อง 3 ช่อง 5 หรือช่อง 7 ที่ต้องการข่าวอยู่แล้วเข้ามาช่วยโหมกระแส ก็ดังไปกันใหญ่
ไม่พอครับ กระแสสังคมออนไลน์ ก็พูดถึงเรื่องนี้กันเยอะ จนกลายเป็น Talk of the Town เลยทีเดียว
สื่อต่างๆ ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น เจ้าของร้านไม่ได้เสียตังค์ซื้อเลยนะครับ
ซึ่งหากตีจากมูลค่าสื่อที่ออกมาแล้ว แคมเปญนี้ ถ้าใช้เงิน ไม่น่าต่ำกว่าหลักล้าน สุดยอดจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้น คือผมเห็นคนโพสว่า ไปชลบุรี เพื่อไปทานร้านนี้โดยเฉพาะด้วย แสดงว่าสื่อเข้าถึงมากๆ
.
.
.
จากกระแสทั้งหมดที่เกิดขึ้น ผมคิดว่า เจ้าของร้านท่านนี้ ควรจะได้รางวัลสาขาการตลาดยอดเยี่ยมประจำปี 2555 ด้วยซ้ำไป
จุดสำคัญของเรื่องนี้ คงบอกให้เราๆ นักการตลาดทุกท่านว่า บางทีการมีจุดขายเฉพาะ (USP) ที่แตกต่างและสร้างสรรค์ อาจทำให้ท่านประสบความสำเร็จได้อย่างคาดไม่ถึง
และคำถามสำคัญ 3 ข้อ ที่เราๆ อาจจะหลงลืมไป เวลาทำธุรกิจและการตลาด
1.) จะขายอะไร
2.) จะขายใคร
3.) ทำไมคนถึงต้องซื้อ
ถ้าตอบได้ รับรองไปรอด แต่ถ้าตอบไม่ได้ ... ก็ควรจะไปทบทวนดูอีกครั้ง ก่อนจะลงมือทำครับ
ในกรณีร้านกินติม ดูควาย
1.) จะขายอะไร - ขายไอติม ที่มาพร้อมบรรยากาศการดูควาย
2.) จะขายใคร - ขายนักท่องเที่ยวและคนที่ขับรถผ่านไปมา
3.) ทำไมคนที่ต้องซื้อ - จุดขายที่แปลกแบบไม่มีใครเหมือน หาที่อื่นไม่ได้
ตอบได้ครบทั้ง 3 ข้อ จริงๆ
นับถือๆ ครับ
Wikran M.
ติดตามบทความของผมต่อได้ทุกวันที่...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น