สำหรับปี 2014 ที่กำลังจะมาถึงนี้... มี Marketing Trend อะไรบ้างที่น่าสนใจสำหรับนักการตลาด
เรามาดูกันครับ...
1.) Consumers Expect More:
ผู้บริโภคคาดหวังกับแบรนด์ที่จะตอบสนองและส่งมอบสิ่งที่พวกเค้าต้องการมากขึ้น จะให้ดีส่งมอบอะไรที่เกินความคาดหมายได้เลยยิ่งดี
2.) Attention Must Be Paid to Brands:
แบรนด์ต่างๆ ไม่เพียงแต่จะต้องเป็นที่รู้จักเท่านั้นว่า ขายสินค้าอะไร ให้บริการอะไร แต่ต้องทำให้ผู้คนรู้ด้วยว่า สินค้าและบริการนั้น มีความหมายและสำคัญยังไงกับผู้บริโภค
3.) Category is King:
แบรนด์ต่างๆ จะไม่สามารถนำเสนอข้ามกลุ่มผลิตภัณฑ์ได้ พวกเค้าต้องมีความเชียวชาญในกลุ่มผลิตภัณฑ์นั้นๆ เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มเสื้อผ้า กลุ่มอาหาร กลุ่มรถยนต์ เป็นต้น
4.) Brands will Get Emotional:
ในขั้นตอนการตัดสินใจเลือกแบรนด์ ผู้บริโภคจะใช้อารมณ์ในการตัดสินใจมากขึ้น แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จจะสามารถบ่งบอกถึง อารมณ์ที่มีคุณค่า มีความหมาย และแตกต่างจากคู่แข่งในใจผู้บริโภคคืออะไร เช่น แบรนด์นี้ใช้แล้วเท่ แบรนด์นี้ใช้แล้วหรู แบรนด์นี้ใช้แล้วดูดี เป็นต้น
5.) Real Brand "Engagement" Defined:
แบรนด์ต่างๆ ต้องใส่ใจในการสร้างความผูกผัน (Engagement) กับผู้บริโภคให้มากขึ้น เพื่อที่สร้างความจงรักภักดี ยอดขาย และกำไรในระยะยาว
6.) Targeting Becomes Personal:
การกำหนดกลุ่มเป้าหมายต้องลงไปในระดับบุคคลมากขึ้น เพราะผู้บริโภคแต่ละรายมีความคาดหวังมากขึ้นในการได้รับการตอบสนองที่ดีที่สุดสำหรับพวกเค้า ทั้งในแง่ผลิตภัณฑ์ แบรนด์ และการสื่อสาร
7.) Digital Done Right:
การตลาดดิจิตอล โดยเฉพาะการตลาดออนไลน์ พวก Social Network ต่างๆ จะมีความสำคัญมาก แบรนด์ต่างๆ ต้องใส่ใจมากขึ้นในการใช้เป็นช่องทางในการเข้าถึงผู้บริโภคในการสร้างความผูกผัน
8.) Content is King:
การตลาดคอนเทนท์ หรือการตลาดสร้างเนื้อหาผ่านทางช่องทางดิจิตอลต่างๆ จะมีความสำคัญมากขึ้น แบรนด์ต่างๆ ต้องสร้างช่องทางออนไลน์ และใช้ช่องทางนั้นในการป้อนเนื้อหาเกี่ยวกับแบรนด์ รวมถึงรับฟังเนื้อหาจากผู้บริโภค และนำไปปรับปรุงพัฒนาแบรนด์ ซึ่งการสื่อสารจะต้องเป็นไปในลักษณะ 2 Way Communication อย่างแท้จริง
9.) Mobile Optimized:
การตลาดผ่านสมาร์ทโฟนจะมีความสำคัญมากขึ้น ผู้บริโภคส่วนใหญ่ใช้เวลากับมือถือมากกว่าสื่อชนิดอื่น แบรนด์ที่สามารถสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจผ่านสมาร์ทโฟน และใช้สมาร์ทโฟนเป็นช่องทางสื่อสารหรือรับบริการต่างๆ ได้ จะได้เปรียบแบรนด์อื่นๆ มาก
10.) Fewer Tedious Texts:
เนื้อหาต่างๆ ที่นักการตลาดสร้างจะเป็นในรูปแบบข้อความน้อยลง และจะต้องใช้ภาพหรือวีดีโอที่น่าสนใจในการสื่อสารกับผู้บริโภคมากขึ้น ตัวอย่างที่ดีก็คือ Viral Marketing ในรูปแบบภาพหรือวีดีโอต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จนั้นเอง
11.) Integration Intensification:
การรวมกันทำตลาดระหว่างช่องทางและสื่อที่เคยทำมา (Traditional) กับช่องทางและสื่อดิจิตอล (Digital) จะมีความสำคัญมากขึ้น การเพิ่มน้ำหนักไปยังโลกดิจิตอลจะมีความสำคัญในการเข้าถึงคนรุ่นใหม่ แต่ก็ต้องบาลานซ์กับช่องทางและสื่อเดิมให้ดี ไม่งั้นอาจจะสูญเสียกลุ่มลูกค้าเดิมได้
จากเทรนด์ทั้งหมดสรุปได้ว่า...
"ผู้บริโภคมีความคาดหวังมากขึ้น มีความต้องการทางด้านอารมณ์มากขึ้น ซึ่งแบรนด์ต่างๆ จะต้องสร้างการรับรู้ในเรื่องภาพลักษณ์ และความผูกผันให้เกิดขึ้นกับกลุ่มเป้าหมาย โดยที่กลุ่มเป้าหมายก็ต้องมองให้ลึกลงไปในระดับบุคคลมากขึ้น และสุดท้ายการตลาดดิจิตอลจะมีความสำคัญมากในการเป็นช่องทางและสื่อในการเข้าถึงผู้บริโภคยุคนี้"
น่าสนใจทีเดียวครับ
Wikran M.
ปล. หัวข้อบทความนำมาจากนิตยสาร Forbes
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น