วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2555

โออิชิ วุฒิศักดิ์ บ้านไร่กาแฟ... S.F. Awards Part II

สวัสดีครับทุกท่าน...

วันนี้เราก็มาต่อกับ Sometimes Fail Awards ภาค 2 หรือเรียกย่อๆ ว่า S.F. Awards กันนะครับ

มาเริ่มกันเลย กับอันดับที่ 4 - 6 (รางวัลจริงๆ แล้ว ไม่มีอันดับนะครับ มอบให้ตามความเหมาะสม ^^ สมควรจะได้)


อันดับที่ 4: รางวัลแบรนด์ไร้วิญญาณ

ได้แก่ ..... แต่น แตน แต้น ..... ชาเขียวโออิชิ คร้าบบบบบ

ถ้ากล่าวถึงตำนานชาเขียวในบ้านเรา ก็ต้องยกให้กับชาเขียวโออิชิ ถึงแม้จะไม่ใช่เจ้าแรกที่บุกตลาด (ผู้บุกเบิกคือ ยูนีฟ กรีนที) แต่ก็ถือว่าเป็นคนทำให้ตลาดชาเขียวเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งก็ต้องให้เครดิตคุณตัน โออิชิ (สมัยอดีต)

แคมเปญโปรโมชั่นสุดยอดแห่งยุค นั้นก็คือ "แคมเปญรวยฟ้าผ่า พลิกฝา โออิชิ กรีนที"
ให้รางวัลผู้ที่เจอฝาแจ๊กพอต 30 รางวัล รางวัลละ 1 ล้านบาท และรางวัลอื่นๆ มูลค่ารวมถึง 32 ล้านบาท

แคมเปญนี้ทำตั้งแต่ปี 2547 ผ่านมาก็ราวๆ 8 ปี แต่ผมก็ไม่เคยลืม... และยังมีต่อกับแคมเปญที่ฮิตไม่แพ้กันนั้นก็คือ "แคมเปญไปแต่ตัว ทัวร์ยกแก๊ง" ซึ่งแรงมากๆ จัดกันหลายภาคเลยทีเดียว
โดยผู้โชคดีก็จะได้ไปเที่ยวและไปช็อปฟรีที่ต่างประเทศ โดนใจวัยรุ่นมั๊กๆ ... ก็ต้องให้เครดิตคุณตันอีกเช่นเคย

แต่แล้วก็มีจุดพลิกผันคือ คุณตันลาออกจากโออิชิ และก็หันมาทำแบรนด์ของตัวเองแข่ง... นั้นก็คือ อิชิตัน
กลายเป็น "ตัน อิชิตัน" แทน "ตัน โออิชิ" เชื่อไหมครับ ... โออิชิที่ถูกซื้อไปทั้งกิจการและแบรนด์ ตอนแรกก็เฉยๆ แต่พอซัดกันไป ซัดกันมา เริ่มเป๋ ดูกันจะๆ แลกหมัดกันมันส์มาก

ก็จัดช่วงเดียวกัน วัดไปเลยว่าใครจะอยู่ใครจะไป... แล้วผลก็ออกมา

นั้นคือ แบรนด์ชาเขียวอิชิตัน ชนะขาดครับ ดูจากไหนหรอครับ...
ดูจากชั้นวางชาเขียวตามร้านสะดวกซื้อไงครับ ตอนนี้วางอิชิตันเยอะกว่าโออิชิมาก (ธรรมชาติของร้านสะดวกซื้อคือ ใครขายเยอะก็ได้พื้นที่เยอะ ส่วนใครขายน้อย ต่อให้เส้นใหญ่แค่ไหน ก็ต้องหลบไป)

และถ้าลองมาวิเคราะห์ดูแล้ว ก็เห็นชัดเลยว่า โออิชิกับคุณตัน มีความผูกพันกันมากในใจผู้บริโภค พอคุณตันเปลี่ยนไปทำอิชิตัน ก็เหมือนถอดวิญญาณจากร่างโออิชิไปทำ...

ตอนนี้แบรนด์ชาเขียวโออิชิ เลยกลายเป็นแบรนด์ไร้วิญญาณไปซะแล้ว !!!

ซึ่งก็ถือว่าเหมาะสมมากๆ กับ รางวัลแบรนด์ไร้วิญญาณ ครับ

สุดท้ายถ้ายังสร้างวิญญาณใหม่ให้ตัวเองไม่ได้ ก็คงรอวันไปเกิดใหม่หรือสร้างแบรนด์ใหม่อย่างเดียวละครับ

หมายเหตุ: สงสารก็แต่เสี่ยเจริญ (ช้าง) ที่คิดผิด ที่ซื้อได้แต่แบรนด์ แต่ซื้อใจคุณตันไม่ได้ T T


อันดับที่ 5: รางวัลแบรนด์ถอยแทบไม่ทัน

ได้แก่ ..... แต่น แตน แต้น ..... เครื่องดื่มวุฒิศักดิ์ คร้าบบบบบ

วุฒิ - ศักดิ์ หรือ Wuttisak ถือว่าเป็นแบรนด์ที่ตอนนี้เข้มแข็งมากๆ จากการทำสื่อโฆษณาอย่างต่อเนื่อง และตอนนี้ก็โหมแรงซะด้วย
จากเกาหลี ที่เน้นเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่น... มาสู่ดารารุ่นเดอะ ที่เข้าถึงคนมีอายุ
ทุกอย่างดูเหมือนราบรื่น คลีนิคเสริมความงาม กับสโลแกน "เพราะความสวย...รอไม่ได้"

แต่สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง... วุฒิศักดิ์ย่ามใจเกินไป ในการมองว่าแบรนด์ตัวเอง คือความสวยความงาม ที่จะขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ไปเป็นอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้... ก็เลยออกผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มวุฒิศักดิ์ กลูตาเฮลตี้ (ดื่มแล้วขาว)
และนำเข้าไปขายที่ร้าน 7-11 ผลก็คือ ขายได้น้อยมาก วางได้ไม่กี่เดือน ก็ต้องเอาออก เพราะยอดขายไม่ถึง... งานนี้เรียกว่า เจ็บจี๊ดไปถึงหัวใจ ทำไมถึงขายไม่ได้ ทั้งๆ ที่แบรนด์วุฒิศักดิ์ก็ติดตลาด ???

ผมตอบให้เลยครับ ว่าพลาดอย่างแรง จากแบรนด์ที่คนเชื่อมั่นในเรื่องการดูแลภายนอก มาเปลี่ยนเป็นให้ดื่ม ให้ทานเข้าไป ใครเล่าจะลอง... เปรียบง่ายๆ ถ้าแบรนด์ซุปไก่สกัด ออกผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นครีมแบรนด์ รับรองไม่มีใครซื้อทาถูๆ แน่ เพราะมั่นใจเรื่องการกิน แต่ไม่แน่ใจเวลาเอามาใช้ภายนอก

ก็ถือว่าเดินเกมพลาด ให้ประสบการณ์เป็นครูไป... ซึ่งก็สมแล้วกับ รางวัลแบรนด์ถอยแทบไม่ทัน 

แบรนด์กับผู้บริโภค เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ถ้าแบรนด์ดังแล้ว เราจะต้องเข้าใจว่า จะทำอะไรต้องคำนึงถึงผู้บริโภคด้วย เพราะผู้บริโภคจะมีภาพจำที่ชัดเจนมากๆ สำหรับแบรนด์นั้น

ผู้บริโภค... เวลาจะให้จำก็จำยาก แต่ถ้าจำแล้ว จะลืมก็ลืมอยากซะด้วยสิ

หมายเหตุ: ผมคิดว่า ถ้าวุฒิศักดิ์จะทำพวกอาหารเสริมหรือเครื่องดื่มจริงๆ ละก็ แนะนำว่าควรทำเป็นแบรนด์ใหม่จะดีกว่าเยอะครับ... อย่ายึดติดกับแบรนด์เดิม ไม่งั้นโอกาสเกิดจะต่ำมั๊กๆ


อันดับที่ 6: รางวัลแบรนด์ล้มทั้งยืน

ได้แก่ ..... แต่น แตน แต้น ..... บ้านไร่กาแฟ คับ

บ้านไร่กาแฟเคยดังสุดขีดในยุคหนึ่ง เป็นที่พูดถึงกันทั่วบ้านทั่วเมือง
บ้านไร่กาแฟเป็นร้านกาแฟแรกๆ ที่บุกเข้าไปขายในปั๊มน้ำมัน ตั้งแต่ปี 2541 (14 ปีมาแล้ว) และก็ขยายสาขาไปกับปั๊ม JET (ตอนนี้ถูก ปตท ซื้อกิจการไปแล้ว) ทั่วประเทศ ราวๆ 70 ร้าน... คนชื่นชม ชื่นชอบมากเพราะราคาขายไม่แพง แก้วนึงตก 30 กว่าบาท และสนองความต้องการของคนขับรถเป็นอย่างดี ที่แวะปั๊มแล้วต้องการซื้อกาแฟ แก้ง่วง

แต่แล้วเกิดอะไรขึ้นไม่มีใครรู้ อยู่ดีๆ บ้านไร่กาแฟก็ประกาศขึ้นราคาเป็น 80 บาทต่อแก้ว ขึ้นราคาเกือบ  3 เท่า ด้วยเหตุผลที่ว่า อยากให้คนไทยดื่มกาแฟคุณภาพดี จึงเปลี่ยนวัตถุดิบใช้ของที่ดีขึ้น !!!

ลูกค้าพากันส่ายหน้ากับเหตุผลของการขึ้นราคาแบบเวอร์มาก... ผลสรุปก็คือ คนเลิกซื้อกาแฟจากร้านนี้ไปเยอะมาก... คงต้องไปเขกกะโหลกคนเสนอปรับราคาขึ้นแบบนี้อย่างแรง

จากแบรนด์ดาวรุ่งเป็นแบรนด์ดาวร่วงไปซะงั้น พลาดครั้งเดียว ล้มทั้งยืนจริงๆ ครับ... ทั้งที่ใจจริงตอนวัยรุ่นผมชื่นชอบแบรนด์นี้มาก ที่คนสร้างเป็นคนไทย และสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาจนประสบความสำเร็จ... แต่ก็นะ ไม่น่าพลาดเลย

ยังดีที่มีร้านใหญ่อยู่ที่ซอยเอกมัย... คนเยอะครับ แต่ส่วนใหญ่ก็มากินข้าว กินเบียร์กันซะมากกว่า...
การขึ้นราคาสินค้านั้น จะมีความอ่อนไหวมาก หากเป็นการขึ้นราคาที่เห็นชัดเจน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเหตุผลใด ผู้บริโภคก็ทำใจรับได้ยาก (ยกเว้นราคาน้ำมัน ปรับบ่อยซะ จนชินแล้ว)

หมายเหตุ: ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ อยากแนะนำบ้านไร่กาแฟให้ดูตัวอย่างของแบรนด์อื่นๆ เช่น Toyota จะขายรถแพง ก็สร้างแบรนด์ใหม่คือ "LEXUS" และ The Mall จะทำห้างหรู ขายของแพง ก็ใช้ชื่อ "Emporium" และ "Siam Paragon" เป็นต้น ขนาดแบรนด์ใหญ่ยังไม่กล้าเสี่ยงกับการใช้แบรนด์เดิม แล้วปรับราคาขึ้น... เพราะพวกเค้ารู้ว่า ผลเสียมันจะมากกว่าผลดี สู้สร้างแบรนด์ใหม่ไปเลยดีกว่า
.
.
ก็จบกันไปกับภาค 2 ...

ติดตามชมภาคสุดท้ายเร็วๆ นี้ครับ

Wikran M.
.
.
>> Sometimes Fail Awards ภาค 1 
>> Sometimes Fail Awards ภาค 3


ติดตามบทความของผมต่อได้ทุกวันที่... 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น