คำตอบส่วนใหญ่ ก็คงหนีไม่พ้น มัลดีฟ ...
คำถามต่อมาทำไมถึงต้องเป็นมัลดีฟ ... เป็นฮาวาย เป็นบาหลี ไม่ได้หรอ
เป็นไปได้ครับ แต่เหมือนเสน่ห์ของมัลดีฟจะมากและยั่งยืนกว่าอีกสองที่ ที่กล่าวมา
แล้วทำไม เสน่ห์ของมัลดีฟ ถึงมากมาย ชนิดที่ว่า ใครๆ ก็อยากไปสักครั้งหนึ่งในชีวิต
ถ้าให้ผมตอบ (1.) ดูจากรูปแล้วมันสวยมาก (2.) ใครไปเที่ยวแล้ว กลับมาเล่าให้เพื่อนฟัง มันเท่ มันไฮโซ (3.) ข่าวที่ว่า เกาะนี้ มันกำลังจะหายไปจากแผนที่โลก
ซึ่งข้อ 3 นี่แหละครับ ที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ แต่มันจะไม่มีแล้ว คนเลยอยากไปกัน
ลักษณะนี้ เรียกว่า การตลาดมนตรา (Mantra Marketing) คือเป็นเรื่องของอารมณ์ที่เข้ามาครอบงำ ถูกสะกด และทำให้เกิดความอยากที่มีความรู้สึกแรงกล้า ต้องไปหรือต้องทำให้ได้
ซึ่ง Mantra Marketing จะถูกประยุกต์ใช้ในเรื่องของสถานที่ซะเป็นส่วนใหญ่
แล้วมีที่ไหน มีเสน่ย์ มีมนตรา น่าไปอีกบ้าง
>> ฝรั่งเศษ : โรแมนติก หอไอเฟล และไปแล้ว เท่มาก
>> อิตาลี: ไฮโซ ดูดี และเวนิซ
>> อียิปต์: น่าค้นหา ลึกลับ ดูแมนมาก
เป็นต้น
ส่วนของบ้านเรา เอาเป็นสถานที่ ที่มีเสน่ย์ในตัวก่อน คือ
>> หัวหิน: ดูดี มีตังค์ หาดส่วนตัว โรงแรมหรู ใกล้กรุงเทพฯ
>> เขาใหญ่: ดูดี มีตังค์ ธรรมชาติดี เย็นตลอด รีสอร์ตหรู ใกล้กรุงเทพฯ
>> สมุย: Full Moon Party, แพง ไฮโซ
>> ภูเก็ต: ดูดี มีระดับ ทะเลสวย โรงแรมหรู
เป็นต้น
แล้วพอมาประยุกต์เข้ากับสถานที่บริการท่องเที่ยวล่ะ มีที่ไหนน่าสนใจ ที่มีมนตรา ดึงดูดผู้คนให้ต้องเข้าไปแวะเยี่ยมชมบ้าง
ที่แน่ๆ ... มี 2 - 3 ที่ครับ ชนิดที่ว่า ถ้าไม่แวะ ถือว่ามาไม่ถึงจริงๆ
หัวหิน --- เพลินวาน --- ด้วยการตลาดแบบปากต่อปาก (Word of Mouth) ผ่านทั้งทาง Offline (เม้าท์กับเพื่อน) และ Online (เม้นกันใน Blog ใน Facebook กันตรึม)ในเรื่องความเก๋ ความแปลก นึกถึงความชื่นชอบในครั้งวันวาน เพลินวานมีรายละเอียดมากมาย ที่น่าค้นหา และแตกต่างจากสถานที่อื่น ในหัวหิน หรือพูดได้เลยว่า ในประเทศไทย จึงไม่แปลกที่ร่ายมนต์สะกดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศ จนอยู่หมัด
เขาใหญ่ --- Primo Posto & Palio --- ลักษณะเดียวกับเพลินวาน มีความเก๋ ความแปลก ความแตกต่าง รวมถึงจัดตกแต่งสไตล์ อิตาเลียน เคล้าไปกับบรรยากาศธรรมชาติ เย็นสบาย ก็ร่ายเวทย์มนตราได้สำเร็จเช่นกัน
สรุปอีกครั้ง Mantra Marketing เหมาะที่จะใช้กับสถานบริการท่องเที่ยว ที่มีความแปลก ความเก๋ ความแตกต่าง ที่เข้ากับบรรยากาศในสถานที่นั้นๆ โดยที่คุณจะต้องสร้างรายละเอียดมากมาย เพื่อให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงมนตราที่ตราตรึงผู้คนที่ไปจริงๆ (พูดประสาชาวบ้าน ก็ไปแล้วประทับใจ ไปแล้วไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน ไปแล้วกลับมาเล่าได้อย่างมีความสุข อะไรประมาณนี้ครับ)
และถ้าเป็นตัวอย่างอื่นๆ ที่ผมชอบ คือ ศรีพันวา โรงแรมหรู ที่ภูเก็ต และก็ คีรีมายา รีสอร์ตหรู ที่เขาใหญ่ ทั้งสองแห่งนี้ หัวกระได ไม่เคยแห่งครับ และมีเสน่ย์มนตรามากมายเหลือเฟื้อ โดยเฉพาะที่ ศรัพันวา ติดตรงที่ว่า มันแพงมาก เท่านั้นเองครับ ^^
โดยผมขอจบ ด้วยมนตรา สุดเสน่หา ของศรีพันวา ที่ภูเก็ตครับ
และขอปิดท้ายจริงๆ ไปกับ MV ของพี่ๆ ไทเทฯ ซึ่ง Scene ส่วนใหญ่ จัดไปที่ ศรีพันวา ครับ ...
แล้วพบกันใหม่ เร็วๆ นี้ครับ
Wikran M.
ติดตามบทความของผมต่อได้ทุกวันที่...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น